8 Tips to Improve Your English Writing Skills
by English tonight
ซื้อสมุดหรือไดอารี่ซักเล่ม หรือ app ไว้จดบันทึก เพื่อให้คุณเขียนทุกอย่างไว้ในที่ๆเดียวกัน คุณจะสามารถดูพัฒนาการการเขียนและปรับปรุงให้ดีมากขึ้นได้อีก
2. ฝึกเขียนภาษาอังกฤษทุกวัน
2. ฝึกเขียนภาษาอังกฤษทุกวัน
ความสำคัญของการฝึกภาษาอังกฤษทุกวัน คือจะเป็นการฝึกอุปนิสัยใหม่ใหัแก่คุณ การเขียนทุกๆวันเป็นภาษาอังกฤษจะทำให้เคยชินและกลายเป็นอะไรที่คุณตั้งหน้าตั้งตารอทำ คุณจะไม่เห็นว่าการพัฒนาภาษาเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าไม่ได้ทุ่มเทในการเขียนภาษาอังกฤษ คุณจะไม่สามารถสร้างเรื่องราวที่อัศจรรย์ได้ถ้าไม่ได้เคยฝึกเขียนเลย
3. เลือกซักหัวข้อหนึ่งแล้วเขียนซะ
![]() |
ตัวอย่าง การฝึกหัดเขียน writing เริ่มต้น จากเว็บ http://english-tonight.com/ |
อย่าไปหยุดกับการมโนว่าจะเขียนอะไรลงไปบ้าง คุณจะเขียนอะไรก็ได้ เขียนอะไรที่คุณได้ทำ ได้เห็น ได้พบ ข่าว แต่งเรื่องอะไรก็ได้ ถ้าคุณเกิดสมองตันขึ้นมา ลองใช้ English Tonight’s writing prompts ช่วยคุณเริ่มต้นเขียนได้
4. เขียนให้มากกว่าหนึ่งร่างฉบับ (draft)
Draft หมายถึง ร่างฉบับของบทความนั้นๆ บางครั้งการเขียนที่ดีที่สุดของคุณจะดีขึ้นเมื่อคุณไปพักซักนิด หรือลองร่างใหม่ซัก 2-3 ฉบับ เมื่อคุณได้ทวนหรือเขียนใหม่แล้ว คุณจะสามารถเขียนได้มากขึ้น แถมยังสามารถเพิ่มเติมสิ่งที่อยากเขียนแต่ลืมในฉบับแรกมาใส่ทีหลังได้
5. ใช้สื่อออนไลน์มาช่วยให้ไวยากรณ์(Grammar) ดึขึ้น
4. เขียนให้มากกว่าหนึ่งร่างฉบับ (draft)
Draft หมายถึง ร่างฉบับของบทความนั้นๆ บางครั้งการเขียนที่ดีที่สุดของคุณจะดีขึ้นเมื่อคุณไปพักซักนิด หรือลองร่างใหม่ซัก 2-3 ฉบับ เมื่อคุณได้ทวนหรือเขียนใหม่แล้ว คุณจะสามารถเขียนได้มากขึ้น แถมยังสามารถเพิ่มเติมสิ่งที่อยากเขียนแต่ลืมในฉบับแรกมาใส่ทีหลังได้
5. ใช้สื่อออนไลน์มาช่วยให้ไวยากรณ์(Grammar) ดึขึ้น
คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกสิ่งที่กก.ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษหรอกนะ ลองเข้าไปใช้เว็บสำหรับปรับปรุงไวยกรณ์ดูสิ เช่น Grammarly, GrammarCheck or GrammarBook.com คุณยังสามารถเช็คตัวสะกดและไวยากรณ์ได้ผ่านทาง MS word หรือจะใช้ ipad หรือ google doc ช่วยเช็คก็ได้
6. คิดนอกกรอบ
6. คิดนอกกรอบ
ไม่จำเป็นต้องเขียนเหมือนกันทุกวัน เดี๋ยวจะเบื่อเสียก่อน พยายามเขียนเรื่องราวจากหลายๆมุมมองหรือใช้หลายๆ tenses ถ้าคุณเขียนเรื่องซักเรื่องเกี่ยวกับเด็กน้อยที่ไม่ยอมหยุดร้องไห้ อันดับแรก คนเล่าเรื่องควรจะเป็นคุณแม่มาเล่าบทความนี้ ต่อมาก็เปลี่ยนมุมมองมาเป็นเด็กน้อย หรือคุณจะเขียนมันในประโยคปัจจุบันก่อน . ‘My baby hasn’t stopped crying in five days…’ แล้วเขียนในมุมมองของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์คิดถึงว่ากำลังมีลูกที่ร้องไห้ไม่หยุดแทน อย่าเขียนอะไรตรงไปตรงมาเสียหมด สร้างสรรค์ไว้ก่อน
7. มีเพื่อนซักคนไว้ปรับแต่งการเขียน
หาเพื่อนซักคนที่มีพื้นฐานอังกฤษทีถูกต้องและปรับแต่งงานคุณได้ ให้เขาช่วยอ่านงานเขียนของคุณเพื่อให้เขียนได้ดียิ่งขึ้น คุณจะปรับแต่งงานเขียนได้หรือช่วยเวลาเขียนไม่ออกได้อีก บ่อยครั้งที่ใครซักคนมาช่วยเปิดตาหาข้อผิดพลาดที่คุณมองข้ามไป
8. หาที่ดีๆให้คุณเขียนโดยเฉพาะ
คุณควรพยายามเขียนจากหลายๆที่หรือหลายๆเวลาของแต่ละวัน บางครั้งคุณคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดียามค่ำคืน พยายามตื่นมาเร็วกว่าปกติซัก 15 นาที เพื่อเขียนตอนเช้า คุณอาจจะมีปัญหาเวลาเขียนในที่มีเสียงดังมากๆ ให้พยายามเขียนทีในที่สบายๆและเงียบสงบ ลองทดลองเขียนจากหลายๆที่หลายเวลา เพื่อหาช่วงที่เหมาะสมกับการเขียนของคุณ
การเขียนเป็นทักษะ ยิ่งคุณฝึกเขียนมากเท่าไรยิ่งเขียนดีมากขึ้นเท่านั้น
ปล. ดำน้ำแปลไปพอสมควร อ่านสะดุดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ
มาอีกคนหนึ่ง แน่นอนว่าเราหยิบของ EngVid มาให้ดูอีกแล้ว (ของเขาดีจริงๆ)
ปล. ดำน้ำแปลไปพอสมควร อ่านสะดุดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ
มาอีกคนหนึ่ง แน่นอนว่าเราหยิบของ EngVid มาให้ดูอีกแล้ว (ของเขาดีจริงๆ)
โดยคุณครู Ronnie
เริ่มต้นคุณครูก็บอกว่า นี่คือสุดยอดเบสิคสำหรับการเขียนซักบทความหนึ่ง ที่ใช้ได้กับทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ไปปรับใช้ได้ เป็นเบสิคจริงๆไม่ได้สอนให้เขียนเป็น essay เพื่อใช้ไปสอบกันนะ (เวลาไม่ได้มีมากพอขนาดนั้น) มีกฎทั้งหมดอยู่ 4 ข้อ ได้แก่
1. Indent หมายถึง เว้นช่องว่างไว้ที่บรรทัดแรกของบทความ
2. Use a capital letter at the beginning of every sentence อักษรตัวแรกของทุกๆประโยคต้องเขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้น
ครู Ronnie ยกตัวอย่างประโยคมาเป็น
"I'm a teacher"
3. Use a period at the end of every sentence. เขียนเครื่องหมาย "." (จะเรียกว่า dot ก็ได้)ต่อท้ายทุกประโยค
ดังนั้น ประโยคที่ครูเขียนจึงต้องเขียนเป็น
"I'm a teacher."
ครู Ronnie ใช้กฏ 3 ข้อด้านบนเขียนประโยคถัดไปเป็น
"My name is Ronnie."
การเขียนแบบนี้ จะทำให้ผู้อ่านรู้ว่าจุดไหนเป็นจุดเริ่มต้นและท้ายสุดของประโยค ทำให้อ่านจับใจความและสามารถเว้นวรรคช่วงการหายใจได้เหมาะสม
4. Don't use point form
น่าจะหมายถึง เขียนเป็นข้อๆไล่บรรทัดลงมา ซึ่งมันไม่ดูเป็นบทความเอาเสียเลย ให้เขียนต่อกันจนสุดบรรทัด แล้วเขียนไล่ลงมา
สุดยอด เบสิคจริงๆเบย ..... ไหนๆอ่านจบแล้วลองมาหัดเขียนกันเลยนะ สู้ๆค่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น